

ตลอดระยะทางไม่ถึง 2 กิโลเมตร ทุกคนจะได้พบกับ ‘ความพิเศษ’ ของเมืองโบราณแห่งนี้ ทั้งการมีผังเมืองเป็นรูปสี่เหลี่ยมล้อมรอบด้วยคูน้ำและคันดิน การมีปราสาทหินแบบขอมตั้งอยู่กลางเมืองก่อนจะถูกองค์ธาตุในสไตล์ล้านช้างสร้างทับในยุคที่ขอมเสื่อมอำนาจ การมีบารายกักเก็บน้ำตามแบบอารยธรรมเขมร การเกิดขึ้นและตั้งอยู่ของเรือนแถวไม้สำหรับค้าขายของชาวจีนและชาวญวนอพยพ มาจนถึงการปรับบ้านเก่าเป็นที่พักและร้านกาแฟสมัยใหม่ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวในแบบที่ยังคงความเรียบง่ายและเนิบช้า



1
บ้านเสงี่ยม-มณี






บ้านเสงี่ยม–มณี
บ้านไม้สามชั้นอายุกว่า 70 ปี ที่ได้รับการปรับปรุงให้เป็นที่พักขนาดเล็กใจกลางเมืองเก่าสกลนคร ภายใต้การดูแลของสองสถาปนิก คุณฟ้าและคุณติ๊ดตี่ ทายาทเจ้าของบ้านในเจเนอเรชันที่ 3 จึงไม่ต้องแปลกใจที่ที่พักขนาด 4 ห้องนอน ทั้งยลสกล มนต์หนองหาร ละลานนา และเทิงภูพาน จะได้รับการอนุรักษ์และทะนุถนอมความดั้งเดิมเอาไว้ ขณะเดียวกันก็มีการเติมแต่งให้ผู้เข้าพักได้รับความสะดวกสบายมากขึ้นในการเข้าพัก พร้อมบอกเล่าเรื่องราวของการอนุรักษ์บ้านเก่า ของดีเมืองสกล ร่วมด้วยการเสิร์ฟคราฟต์กาแฟ มัทฉะ และไอศกรีมโฮมเมดเจลาโตภายใต้แบรนด์ CUUN and Co. เคล้าบทสนทนาของผู้เข้าพักที่ชั้นล่างของตัวบ้าน
เวลาเปิดปิด : นัดหมายล่วงหน้า
โทรศัพท์ : 06 2727 7126
2









พระธาตุเชิงชุมวรวิหาร
พระธาตุเชิงชุม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสกลนคร ตั้งอยู่ภายในวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร พระอารามหลวง โดยมีความน่าสนใจอยู่ที่พระธาตุทรงบัวเหลี่ยม ศิลปะล้านช้างที่เราเห็นในปัจจุบันนั้น เป็นการ ‘สร้างครอบ’ ปราสาทหินศิลาแลงแบบขอมองค์เดิมไว้ นอกจากนี้ ภายในวัดยังมีอาคารสิมโบราณ อายุเกือบ 200 ปี โดดเด่นด้วยภาพจิตรกรรมเถาไม้เลื้อย ภาพเทพบุตรและเทพธิดา รวมถึงหอกลองและหอระฆังสูงสามชั้น ที่ถึงแม้จะมีอายุไม่มาก แต่การมีสถาปัตยกรรมและภาษาเวียดนามปรากฏก็เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า พระธาตุแห่งนี้เป็นศูนย์รวมใจของคนหลากหลายเชื้อชาติในสกลนครอย่างแท้จริง
เวลาเปิดปิด : ทุกวัน 06:00-22:00 น.
ห้ามพลาด : ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ของทุกปี มีการจัดงานนมัสการพระธาตุเชิงชุมประจำปี อีกหนึ่งประเพณีที่ยิ่งใหญ่ในพื้นที่เมืองเก่าสกลนคร มีไฮไลท์อยู่ที่การรำบวงสรวงองค์พระธาตุโดยนางรำกว่า 5,000 คน
3
กุนเชียงยายทองคำ







กุนเชียงยายทองคำ
ร้านขายของฝากเก่าแก่ในย่านเมืองเก่าสกลนคร ซิกเนเจอร์คือ ‘กุนเชียง’ ที่คุณยายทองคำ เจ้าของร้านบอกเคล็ดลับว่า อยู่ที่การใช้หมูเนื้อแดงล้วน ไม่ผสมแป้ง ไม่ใส่ดินปะสิวและสารกันบูด ก่อนจะขยายไลน์ผลิตต่อยอดไปเป็นไส้กรอกอีสาน แหนม และหมูฝอย ซึ่งก็ขายดีไม่แพ้กัน แถมตอนนี้ที่ร้านยังได้ลูกสาวอย่างป้าแหม่มมาขาย ‘ปากหม้อ’ ที่เริ่มจากการทำกินกันเองในครอบครัวแล้วคุณยายเอาไปออกโรงทานจนทุกคนถามหา เมื่อทนเสียงเรียกร้องไม่ไหวจึงต้องกลับมาเปิดขายที่บ้าน ซึ่งด้วยการเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพดี มีให้เลือกทั้งแบบธรรมดา ไข่ดาว ไข่ม้วน และไข่พับ จิ้มกับน้ำจิ้มสูตรพิเศษที่เน้นความเหนียวข้น ทำให้ไม่ว่าใครได้กินเป็นต้องกลับมาซ้ำทุกคนไป
เวลาเปิดปิด : ทุกวัน 08:00-18:00 น.
โทรศัพท์ : 08 8321 2502
4
ชุมชนกลางธงชัย








ชุมชนกลางธงชัย
ชุมชนกลางธงชัย หรือ ‘คุ้มกลางธงชัย’ นับเป็นชุมชนแรกของเมืองเก่าสกลนคร ซึ่งต้องนับย้อนกลับไปถึงสมัยกรุงธนบุรี ที่อุปฮาดเมืองกาฬสินธุ์ได้รับคำสั่งให้นำครอบครัวมาตั้งถิ่นฐานที่บ้านธาตุเชิงชุม เพื่อดูแลพระธาตุเชิงชุม ตามพัฒนาการการก่อรูปของเมืองและชุมชนที่เรียกว่า “คุ้มบ้านคุ้มวัด” หมายถึง การที่วัดและชุมชนอยู่ด้วยกัน เกื้อกูลซึ่งกันและกัน ซึ่งคนในชุมชนยังคงสืบเชื้อสายมาจนถึงปัจจุบัน ขณะเดียวกันก็ยังมีการสอดแทรกสตรีทอาร์ตไว้ตามมุมต่าง ๆ ของชุมชน เพื่อเล่าเรื่องเมืองและแสดงให้เห็นถึงความร่วมสมัยมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
5
ถนนใจผาสุก








ถนนใจผาสุก
ย่านเมืองเก่าสกลนครมีถนนสำคัญหลายสาย ซึ่งทุกสายล้วนผูกติดหรือยึดโยงกับการค้าการขาย ไม่ว่าจะเป็นถนนเจริญเมือง ถนนสุขเกษม หรือถนนใจผาสุก ที่เป็นย่านค้าขายและที่อยู่อาศัยของชาวจีนและชาวญวน การเดินเท้าบนถนนเหล่านี้ นอกจากจะทำให้เราได้เห็นความคึกคักทางเศรษฐกิจ (ซึ่งถึงแม้จะซบเซาลงไปบ้างตามกาลเวลา) แต่เรายังจะได้เห็นลักษณะเด่นของ ‘เรือนแถวไม้’ ที่ชั้นล่างทำเป็นร้านค้า ชั้นบนเป็นที่อยู่อาศัย ที่นับวันจะพบเห็นได้น้อยลงทุกที และถ้าสังเกตดีๆ ที่บ้านประตูของบ้านไม้บางหลังในย่านนี้จะมีตัวอักษรย่อ ‘ญอ’ เขียนอยู่ ซึ่งก็หมายความว่าบ้านหลังนั้นเคยเป็นที่พักของคนญวนอพยบซึ่งหนีภัยสงครามและศาสนาในประเทศเวียดนามมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เรื่อยมาจนถึงช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ถือเป็นร่องรอยทางประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญ และเหลือให้เราเห็นอยู่เพียงไม่กี่หลังเท่านั้น
ห้ามพลาด : บนถนนใจผาสุก ยังเป็นที่ตั้งของ ‘ใจผาสุก บริวเวอรี่’ โรงเบียร์ท้องถิ่นของคนสกลนครที่รับรองว่า เข้าไปแล้วจะทำให้คุณออกมาด้วยใจที่ผาสุก
เวลาเปิดปิด : 17.00-24.00
โทร: 081 232 4936
6
Piccolo Café







Piccolo Café
แม้จะมีชื่อ Piccolo ในเมนู แต่คุณโอม เจ้าของร้านยืนยันว่า ไม่ได้เป็นเมนูแนะนำของทางร้าน เพียงแต่ที่ตั้งชื่อร้านว่า “Piccolo” ซึ่งในภาษาอิตาลี แปลว่า “เล็ก” นั้น ต้องการจะสื่อว่า Piccolo คือร้านกาแฟในเมืองเล็ก ๆ ที่คุณภาพไม่เล็กตามตัว โดย house blend ของทางร้านเป็นเมล็ดไทย-เคนยา คั่วกลางค่อนอ่อน เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสรสชาติจากกาแฟให้ได้มากที่สุด ด้านการตกแต่ง เน้นไปทางสีเอิร์ธโทน ล้อกับบ้านเก่าที่ใช้วัสดุหลักเป็นไม้และอิฐ หากใครมาตรงกับช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ที่หน้าร้าน Piccolo บนถนนเรืองสวัสดิ์ยังจะแปลงร่างเป็น ‘ถนนผ้าคราม’ ให้นักช้อปได้เลือกซื้อผ้าคราม อีกหนึ่งของดีเมืองสกลติดไม้ติดมือกลับบ้านกันไปอีกด้วย
เวลาเปิดปิด :
จันทร์-ศุกร์ (หยุดทุกวันพุธ) 08:00-15:00 น. / เสาร์-อาทิตย์ 09:00-16:00 น.
โทรศัพท์ : 08 3017 7141
7
สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์







สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์
สวนขนาดใหญ่ที่สร้างล้อมสระพังทอง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองเก่าสกลนคร ด้วยเพราะเป็น ‘บาราย’ หรือสถานที่กักเก็บน้ำมาตั้งแต่ยุคขอมโบราณ ขณะที่ถัดออกไปอีกนิด จะสังเกตเห็นแนว ‘คูน้ำคันดิน’ เมืองโบราณริมทะเลสาบหนองหาร ที่มีไว้สำหรับป้องกันเมืองและป้องกันน้ำจากเทือกเขาภูพาน ซึ่งสันนิษฐานว่า มีมาตั้งแต่สมัยอารยธรรมขอมเช่นกัน ปัจจุบันทั้งสองสถานที่ ทั้งสระพังทองและคูเมืองเดิมต่างได้รับการพัฒนาโดยเทศบาลนครสกลนครให้เป็นสวนสาธารณะและพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจของคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ภายใต้ชื่อสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ และสวนสมเด็จเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา หรือที่เป็นรู้จักกันในชื่อ ‘สวนแม่-สวนลูก สกลนคร’
เวลาเปิดปิด : ทุกวัน 04:00-21:00 น.
