

Chiang Rai -เส้นทางเมืองเก่าเชียงแสน
เส้นทางนี้จะพาไปทำความรู้จักเมืองไม่เล็กไม่ใหญ่ แต่อบอุ่นหัวใจทุกครั้งที่มาถึง “เชียงแสน” เป็นเมืองที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เคยเป็นศูนย์กลางอาณาจักรล้านนาและ เป็นเมืองโบราณที่มีอายุเก่าแกที่สุดแห่งหนึ่งของภาคเหนือ ซึ่งปัจจุบันยังทิ้งร่องรอยสถาปัตยกรรม โบราณสถาน โบราณวัตถุและผังเมืองที่สะท้อนถึงความรุ่งโรจน์ของอาณาจักรในอดีต อีกทั้งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่สุดเขตแดนประเทศไทย โดยมีแม่น้ำโขงเป็นพรมแดนธรรมชาติระหว่างไทย-ลาว มีผู้คนสัญจรไปมาอย่างคึกคัก ทำให้เชียงแสนเป็นเมืองเก่าที่ยังมีชีวิตและเต็มไปด้วยเสน่ห์ แม้จะผ่านเวลามานานหลายร้อยปีแล้วก็ตาม



1





วัดเจดีย์หลวง
วัดหลักและและศูนย์รวมจิตใจของของชาวเชียงแสนในอาณาจักรล้านนา สร้างโดยพญาแสนภู กษัตริย์ล้านนาองค์ที่ 3 เป็น 1 ใน 73 วัดในกำแพงเมือง ด้วยความโดดเด่นของเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมที่สวยงามตั้งตระหง่านกลางเมือง มีความสูงถึง 88 เมตรและมีฐานกว้าง 24 เมตร เป็นพระเจดีย์ทรงระฆังแบบล้านนาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเชียงแสน และเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปที่เดิมเป็นปูนปั้นอายุเกือบ 700 ปี ส่วนวิหารหลวงใหญ่เป็นวิหารทรงล้านนา สังเกตได้จากการออกแบบจั่ว ด้านหน้า 3 จั่วและด้านหลัง 2 จั่ว
วิธีการเดินทางและที่จอดรถ
>เจดีย์หลวงตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงแสน ห่างจากวัดป่าสัก 250 เมตร
>สามารถเดินทางด้วยหลายวิธีทั้ง รถสามล้อ รถมอเตอร์ไซต์รับจ้างและเดินเท้า
>รถส่วนตัว สามารถจอดได้บริเวณริมถนนด้านหน้าเจดีย์หลวง
เวลาเปิดปิด : ทุกวัน
-เวลา 07.00-18.00 น.
2
วัดพระยืน



วัดพระยืน
วัดเก่าอายุเกือบ 700 ปี สร้างเป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมเพื่อบรรจุพระธาตุ 140 องค์ เป็นเรือนธาตุตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสซ้อนกัน 3 ชั้น ขนาด 8 เมตร ปัจจุบันเป็นวัดร้าง ไม่พบวิหารและอาคารอื่นๆ แม้จะร้าง แต่ด้วยตัวเจดีย์ที่ยังสมบูรณ์ ทำให้วัดนี้ยังงดงามและทรงคุณค่า ขณะเดียวกันข้าง ๆ วัดพระยืน เป็นที่ตั้งของด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงแสน ซึ่งเป็นอาคารไม้เก่าที่ผ่านการดูแลเป็นอย่างดี ยังคงความสวยงามและสมบูรณ์มากหลังหนึ่งของไทย
3






ตลาดสดสินสมบูรณ์
ตลาดเก่าอายุกว่า 100 ปีซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าขายสำคัญของเมืองเชียงแสนมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ตลาดที่เราเห็นในปัจจุบันนี้ได้มีการบูรณะและต่อเติมจากอาคารไม้หลังเดิม ที่ถูกไฟไหม้จนเสียหายทั้งหลัง ตลาดใจกลางเมืองแห่งนี้เปิดขายสินค้าพื้นเมือง ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ อาหารและผักผลไม้พื้นถิ่นที่พี่น้องชาติพันธุ์จากดอยแม่แอบ นำลงมาขายด้วยตนเองในราคาที่เป็นมิตร โดยจะเปิดขายตลอดทั้งวัน แต่จะคึกคักเป็นพิเศษในช่วงเช้า มาถึงที่นี่แล้วต้องลองทานอาหารไทใหญ่และเดินไปเที่ยววัดปราสาทคุ้มที่ตั้งอยู่หลังตลาด ชมความงามของเจดีย์ก่ออิฐถือปูนยอดระฆังทรงกลม ซึ่งเป็นรูปแบบการสร้างเจดีย์ที่นิยมมากที่สุดในเมืองเชียงแสน
เวลาเปิดปิด :
-ทุกวัน 24 ชม.
-มีบริการห้องน้ำสะอาดในราคา 5 บาท
4




ร้านไส้อั่วเชียงแสน
ร้านลับเฉพาะเจ้าถิ่นเท่านั้นที่จะรู้จักและเคยสัมผัสกับความอร่อยของไส้อั่วเชียงแสน เมนูขวัญใจของคนในพื้นที่ ด้วยความอร่อยกลมกล่อม หอมเครื่องเทศ โดยมีให้เลือก 2 รสชาติ คือเผ็ดและไม่เผ็ด ขายในราคาน่ารัก เพียงขีดละ 40 บาท และอีกหนึ่งเมนูที่ห้ามพลาดเมื่อมาถึงที่นี่คือแกงกระด้าง อาหารขึ้นชื่อของเมืองเหนือ ซึ่งร้านนี้มีเอกลักษณ์แตกต่างจากร้านอื่นตรงพริกแกงรสเผ็ดพอดีและไม่ผสมวุ้น ทำให้ได้รสชาติและรสสัมผัสของแกงแบบต้นตำรับ ทานอิ่มแล้วยังเดินเที่ยวต่อได้อีก เพราะติดกันกับร้านไส้อั่วเป็นที่ตั้งของวัดนันทขว้าง อีกหนึ่งโบราณสถานแห่งสำคัญของเชียงแสน
เวลาเปิดปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-19.00 น. หรือจนกว่าของจะหมด
5





ริมแม่น้ำโขง
เดินเที่ยวเพลินๆ ก็จะมาเจอแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่บอกว่าเรามาถึงสุดแดนประเทศไทยที่เมืองเชียงแสนแล้ว ฝั่งตรงข้ามเป็นประเทศลาว ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของอาคารขนาดใหญ่และคาสิโน ที่ผู้คนส่วนใหญ่เรียกว่า อาณาจักรคิงส์โรมัน ภายใต้เขตเศรษฐกิจพิเศษของกลุ่มทุนจีน ถัดออกไปก็จะเจอกับสามเหลี่ยมทองคำ พื้นที่พรมแดนระหว่างไทย ลาวและเมียนมาร์ ซึ่งเป็นจุดบรรจบระหว่างแม่น้ำรวกและแม่น้ำโขง โดยที่้้เมืองเชียงแสนจะให้บริการเป็นจุดผ่านแดนถาวรไทย-ลาว ที่พี่น้องสามารถเดินทางสัญจรไปมาได้อย่างสะดวกผ่านทางเรือ มีทั้งเรือข้ามฝากและเรือนำเที่ยวล่องแม่น้ำ และในทุกเย็นวันเสาร์ ถนนริมแม่น้ำโขงจะเปลี่ยนเป็นถนนคนเดิน ให้ได้ชอปปิ้งและอุดหนุนสินค้าวิสาหกิจของชุมชนอีกด้วย
การให้บริการเรือและการข้ามแดน
-ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. มีให้บริการทั้งเรือหางยาวและเรือมีหลังคา นั่งได้มากที่สุด 15 คน ราคา 800-1,500 บาท
-หากต้องการไปลาว สามารถใช้แค่บัตรประชาชนใบเดียว และไปขอทำใบผ่านแดนที่ว่าการอำเภอเชียงแสน ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากริมแม่น้ำโขง ก็สามารถเที่ยวลาวได้ 3 วัน
6




วัดนางฟ้ากาเผือก
วัดเก่าแก่อายุหลายร้อยปีที่มีการสันนิษฐานว่าตั้งอยู่ในเขตพระราชวังในอดีต เป็นวัดที่มีความหมายในเชิงความรัก ที่คนในพื้นที่ส่วนใหญ่จะมาขอพรเรื่องเนื้อคู่ เนื่องจากจุดเริ่มต้นของการสร้างวัดแห่งนี้คือพระมหากษัตริย์ทรงสร้างวัดให้กับคนรักซึ่งเป็นธิดาเมืองล้านช้าง ทำให้เจดีย์ของที่นี่เป็นศิลปะล้านช้างแห่งเดียวในเมืองเชียงแสน เมื่อสร้างเสร็จได้มีการบวชพระสงฆ์ 1,000 รูปเพื่อฉลองวิหารด้วย อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด นอกจากการชมโบราณสถานแล้ว คือการมองขึ้นไปบนต้นโพธิ์ จะเห็นใบโพธิ์เรียงกันเป็นรูปหัวใจด้วย ซึ่งสะท้อนถึงการเป็นวัดแห่งความรักจริงๆ
7




วัดพระเจ้าล้านทอง
วัดเก่าอายุกว่า 500 ปี เป็นที่ประดิษฐานของพระเจ้าล้านทององค์ใหญ่ที่สุดในเมืองเชียงแสน ซึ่งเป็นพระพุทธปฏิมากรที่หล่อด้วยทองปัญจะโลหะและออกแบบด้วยศิลปะล้านนา โดยคำว่า “ล้านทอง” มีที่มาจากน้ำหนักของทองที่ใช้ในการสร้างพระพุทธรูป โดยภายในวัดยังเป็นที่ตั้งของศาลหลักเมืองเชียงแสน ที่คนในพื้นที่เรียกว่า วัดสะดือเมืองหรือหัวใจของเมืองเชียงแสน รวมถึงมีเจดีย์องค์ใหญ่ ที่ถือเป็นโบราณสถานที่ยังสมบูรณ์สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งตั้งอยู่หลังวิหารของวัดด้วย
เส้นทางลับการเดินเที่ยวจากจุดนี้ไปยังจุดถัดไป
เส้นทางจากวัดพระเจ้าล้านทองไปยังวัดมุงเมือง นอกจากจะใช้เส้นกลางเมืองซึ่งเป็นถนนหลักได้แล้ว สามารถเดินผ่านเส้นหลังวัดซึ่งจะไปทะลุตรงซอยไปรษณีย์ด้านข้างวัดมุงเมือง ซึ่งถนนเส้นนี้จะเรียงรายไปด้วยบ้านเรือนเก่าแก่ของชาวเชียงแสน ที่ใช้สถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะในการออกแบบบ้านด้วย
8




วัดมุงเมือง
ตั้งอยู่ตรงข้ามวัดพระบวช ภายในวัดมีโบราณสถานที่สำคัญคือ พระเจดีย์ที่ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจตุรัสย่อมุมซ้อนกันสี่ชั้น มีซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปยืนปางเปิดโลกทั้งสี่ด้าน ส่วนยอดเป็นองค์ระฆังกลม มีเจดีย์เล็กๆ ประดับอยู่ที่มุมคล้ายเจดีย์ที่วัดป่าสัก ส่วนบริเวณรอบๆ มีศาลาลายซึ่งเป็นที่อยู่ของพระสงฆ์ในอดีต และมีซุ้มประตูโขงตรงทางเข้าวัด ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นศิลปะการออกแบบวัดที่หาชมได้ยากในปัจจุบันและควรค่าที่จะมาเที่ยวชม
9





พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน
ตั้งอยู่ตรงข้ามวัดพระมหาธาตุ ถือเป็นศูนย์ข้อมูลประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเมืองเชียงแสน แสดงเรื่องราวที่มาทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์ศิลปะ ที่เกี่ยวข้องกับการตั้งหลักแหล่งของชุมชน รวบรวมวัตถุหลักฐานที่เกี่ยวเนื่องกับวัฒนธรรม ศาสนาและความเชื่อ โดยจัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และขนบธรรมเนียมประเพณีของกลุ่มชนชาวเชียงแสน เช่น ตุง เครื่องตั้งธรรมหลวง หีบธรรม และเจดีย์จำลอง เป็นต้น สิ่งที่ไม่ควรพลาดชม คือหน้ากาล ศิลปะล้านนาพุทธศตวรรษที่ 18-19 และปูนปั้นประดับเจดีย์
เวลาเปิดปิด :
–วันพุธ–วันอาทิตย์ เวลา 08.30-16.30 น. (ปิดวันจันทร์–อังคาร)
–ค่าเข้าชม คนไทย 10 บาท คนต่างชาติ 100 บาท
10





วัดป่าสัก
วัดเก่าแก่ที่ถือเป็นปูชนียสถานสำคัญของเมืองเชียงแสน ที่สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุส่วนกระดูกตาตุ่มข้างขวาของพระพุทธเจ้า ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 16 ไร่ โดยรอบวัดมีการปลูกต้นสัก 300 ต้น จึงเป็นที่มาของชื่อวัด ความโดดเด่นของวัดนี้คือ เจดีย์ทรงปราสาทแบบล้านนา 5 ยอดที่ยังมีความสมบูรณ์อยู่มาก ซึ่งได้รับอิทธิพลจากศิลปะหริภุญชัย ส่วนรอบๆ จะมีเจดีย์องค์เล็กประดับอยู่ทั้ง 4 มุม เป็นการออกแบบผสมผสานระหว่างศิลปะสุโขทัย พุกามและหริภุญชัย จนกลายมาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเจดีย์ล้านนา ขณะเดียวกันยังได้รับวัฒนธรรมการออกแบบมาจากประเทศเพื่อนบ้าน สังเกตได้จากลายโบตั๋นจากจีน ใบระกาจากเมียนมาร์และหน้ากาลจากกัมพูชา
เคล็ดลับการไหว้พระ
แนะนำให้ใช้ “สวยดอก” ศิลปะการจัดดอกไม้แบบล้านนามาใช้ไหว้พระขอพร ซึ่งสวยดอกมีหลากหลายรูปทรง ไม่ว่าจะเป็นทรงปากนกแก้ว ทรงพระเจ้านั่งโก๋น ซึ่งมีความสวยงามที่แตกต่างกัน
เวลาเปิดปิด :
–ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
–ค่าเข้าชม คนไทย 10 บาท คนต่างชาติ 50 บาท
