

ชุมชนริมน้ำโบราณ
ตั้งอยู่ใจกลางอำเภอเมืองจันทบุรี มีประวัติศาสตร์ย้อนไปถึงสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เมื่อกว่า 300 ปีที่แล้ว ถือเป็นชุมชนแรกของจันทบุรี ประกอบด้วยผู้คนจากสามกลุ่มชาติพันธุ์ ได้แก่ ไทย จีน และญวน (เวียดนาม) ในสมัยรัชกาลที่ 5 ชุมชนนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นศูนย์กลางของจังหวัดและเป็นจุดหมายการค้าขายและการเดินทางในภูมิภาคตะวันออก ก่อนที่ในปัจจุบันชาวชุมชนได้ร่วมกันส่งเสริมและพัฒนาริมน้ำจันทบูรให้เป็นแหล่งอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม



1
อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล




สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาโดยชาวญวนที่หนีการเบียดเบียนคริสต์ศาสนิกชนในเวียดนามมาอยู่ที่จันทบุรี อาสนวิหารแห่งนี้ซึ่งเป็นโบสถ์หลังที่ 5 นับตั้งแต่มีการก่อสร้างครั้งแรก มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบกอทิก สังเกตได้จากยอดแหลมบนหอระฆัง ภายในมีภาพนักบุญประดับกระจกสีแบบสเตนกลาส ตกแต่งเพดานเป็นท้องเรือไม้โนอาห์ ส่วนไฮไลต์ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ องค์พระแม่มารีประดับพลอย 2 แสนเม็ด มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท อันเกิดจากความร่วมใจของชาวเมืองจันทบุรี โดยโบสถ์คาทอลิกแห่งนี้ได้ชื่อว่าเก่าแก่และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ทั้งยังได้รับรางวัลอนุรักษ์อาคารดีเด่น ประจำปี 2542 จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์อีกด้วย
ด้านหลังโบสถ์เป็นที่ตั้งของ ‘ตลาดร้อยปี’ ตลาดเช้าของชุมชน เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 05:00-09:00 น. ซึ่งในบริเวณเดียวกันยังมีภาพวาดสตรีทอาร์ตเล่าเรื่องราวของชุมชนชาวคาทอลิกเชื้อสายญวน ไม่ว่าจะเป็นภาพพระเยซูในวัยเยาว์ ภาพพระเยซูตรึงกางเขน ภาพนักบุญ หรือแม้แต่ภาพของคนในชุดอ๋าวหญ่าย ชุดประจำชาติเวียดนาม
เวลาเปิดปิด:
จันทร์–เสาร์ 09:00-12:00 น.
และ 13:00-15:00 น.
/ อาทิตย์ 12:00-16:00 น.
หมายเหตุ: แต่งกายสุภาพ กางเกงหรือกระโปรงคลุมเข่า และไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพบุคคลภายในอาสนวิหาร
2
บ้านพิพิธกางเขน

นับตั้งแต่ปี 2530 เมื่อบาทหลวงเฉลิม กิจมงคล มีโอกาสได้เดินทางไปยังต่างประเทศในหลาย ๆ ประเทศ จึงได้เก็บรวบรวมและสะสมไม้กางเขน สัญลักษณ์แทนความรักและความเมตตาของพระเจ้าที่ทรงมีต่อมนุษย์ทุกคน ทั้งขนาดเล็ก ใหญ่ รวมถึงลูกประคำและรูปเคารพของพระแม่มารี จนปัจจุบันมีมากกว่า 1,500 อัน ซึ่งคาดว่าน่าจะมากที่สุดในประเทศไทย โดยอันที่เก่าแก่ที่สุด มีอายุกว่า 100 ปี ส่วนอันที่แปลก ๆ ก็มีให้เห็น อย่างกางเขนทำจากเกลือที่นำมาจาก Catedral de Sal de Zipaquirá โบสถ์ในเหมืองเกลือ ประเทศโคลอมเบีย เป็นต้น
เปิดบริการ: นัดหมายล่วงหน้าเท่านั้น (โทร. 08 9096 2567)
3
หมู/เนื้อย่างโรมันลุงตุ๋ย


แม้เพิ่งเปิดได้ไม่นาน แต่ตอนนี้ลุงตุ๋ยกำลังดังไกลในโลกโซเชียล หลังมีอินฟลูฯ สายกินมารีวิวกันนับไม่ถ้วน ที่เป็นอย่างนั้น เพราะรสแบบนี้ใช่ว่าจะหากินได้ทั่วไป โดยเคล็ดลับของลุงตุ๋ยเริ่มที่การคัดเลือกวัตถุดิบ ที่เนื้อแต่ละชนิดต้องติดมันมาด้วยเล็กน้อย เนื้อหมูต้องเป็นส่วนสันคอ เนื้อวัวต้องตรงหางตะเข้ หลังจากนั้นจึงนำไปหมักไปคลุกด้วยเครื่องสมุนไพรตามแบบฉบับคนญวนหลังวัดคาทอลิก ที่ประกอบด้วยข่า พริกไทย กระเทียม และน้ำตาลอ้อย แล้วจึงนำไปอบให้สุก ก่อนนำมาย่างอีกครั้งด้วยเตาถ่านให้ได้กลิ่นหอม รักษาไฟด้วยขี้เถ้า หมุนไปมาให้สุกโดยทั่ว
เปิดบริการ: ทุกวัน 06:00-12:00 น.
4
กล้วยปิ้งสายเดี่ยว



ร้านขายกล้วยปิ้งประจำชุมชนบ้านท่าเรือจ้าง เป็นของกินเล่นขึ้นชื่อของชุมชน ขายมากว่า 20 ปี โดดเด่นด้วยการเลือกกล้วยน้ำว้าลูกโต ๆ สุกพอดีกิน นำไปย่างอุ่น ๆ ทุบให้นุ่ม ส่วนที่เป็นเอกลักษณ์อีกอย่างคือ น้ำราดที่ทำจากน้ำตาลอ้อยเคี่ยวแบบโบราณ ของดีของเด่น ต.หนองบัว ให้รสหวานและกลิ่นหอม ผสมกับน้ำกะทิที่ออกเค็มนิด ๆ เวลากิน ป้าตุ้มบอกให้จิ้มชิ้นก้น ๆ ถุง จะได้ “เซิ่บ ๆ” หรือภาษากลางก็คือ “ชุ่ม ๆ” นั่นเอง
เปิดบริการ: ทุกวัน 09:00-14:00 น.
5
สตรีทอาร์ตท่าเรือจ้าง





สตรีทอาร์ตที่บอกเล่าเรื่องราวของชุมชนหลังวัดคาทอลิก ชุมชนบ้านท่าเรือจ้าง และจังหวัดจันทบุรีกว่า 40 ภาพ โดยมีไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ภาพความเป็นมาของการสร้างอาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมลตั้งแต่หลังแรกที่เป็นไม้จนมาถึงหลังปัจจุบัน หลังที่ 5 ที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก รวมถึงเรื่องราวอัตลักษณ์ของจังหวัดจันทบุรี ไม่ว่าจะเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องผลไม้ หรือแม้แต่รูปกระต่ายในดวงจันทร์ ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ประจำจังหวัดของจันทบุรี อันสื่อถึงความสวยงาม เยือกเย็น ละมุนละไม และร่มเย็นเป็นสุขของภูมิภาคนี้
6
ก๋วยเตี๋ยวเจ๊น้อง




ก๋วยเตี๋ยวร้านดังของชุมชนท่าเรือจ้าง ขายมานานกว่า 50 ปี แต่ก่อนขึ้นชื่อเรื่องก๋วยเตี๋ยวหมูเลียง เนื้อเลียง อีกหนึ่งรากรสชาติพันธุ์ของคนเมืองจันท์ที่โดดเด่นด้วยน้ำซุปสมุนไพรรสกลมกล่อม มีเร่ว (พืชวงศ์เดียวกับขิง ข่า) สับปะรด กระเทียมดอง และกะปิเผาเป็นส่วนผสมสำคัญ เข้มข้นถึงใจ แต่หลัง ๆ มานี้ ก๋วยเตี๋ยวหมูแดงที่คนในละแวกเรียกกันว่า “หมูเยิ้ม” กลับมาแรงแซงทางโค้ง แต่ถ้าได้ชิมทั้งสองชาม…อาจเป็นดีที่สุด
Along the way ระหว่างร้านก๋วยเตี๋ยวเจ๊น้องกลับไปยังอาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล อย่าลืมสังเกตทางขวามือ จะเห็นต้นละมุดแผ่กิ่งก้านสาขา หรือถ้าไปตรงฤดูอาจได้เห็นผลละมุดด้วย ซึ่งถ้าไม่มีใครบอก อาจไม่รู้ว่า ต้นละมุดต้นนี้มีอายุเก่าแก่ถึง 300 ปี! เรียกได้ว่า เกิดมาพร้อมกับชุมชนเลยทีเดียว
เปิดบริการ: 08.30-14.30 น. หยุดทุกวันพุธและพฤหัสบดี
7
สะพานนิรมล



การเดินทางข้ามฟากแม่น้ำจันทบุรีบริเวณหน้าวัดคาทอลิกในอดีต มีทางเดียวคือ เรือแจว เรือจ้าง ทั้งการไปวัดเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ไปโรงเรียน การเดินทางไปมาหาสู่กันและค้าขายต่าง ๆ จวบจนปี 2518 จึงมีการสร้างสะพานเชื่อมสองฝั่งแม่น้ำจันทบุรีขึ้นครั้งแรก แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นในปี 2546 เมื่อสะพานเกิดหักขณะดึงกอสวะออก ต่อมามีการสร้างสะพานใหม่ ณ จุดเดิม ชื่อว่า “สะพานนิรมล” เปิดใช้ในอีกสองปีถัดมา นับเป็นสะพานเชื่อมศรัทธาชุมชนสองฝั่งน้ำและเป็นจุดเช็กอินยอดนิยมของนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน
